หลายครั้งที่ผมได้มีโอกาสให้คำปรึกษากับลูกค้าที่เป็นเจ้าของกิจการหรือผู้บริหารระดับสูงของบริษัทต่างๆ จึงได้พบกับความเข้าใจในการจัดสำนักงานในหลายๆอย่าง ที่อาจจะมีผทำให้กระทบกับผลของการจัดฮวงจุ้ยให้มีผลทั้งในด้านที่ดี และในด้านที่ไม่ดีได้ และอาจเป็นผลต่อเนื่องมาถึงผลประกอบการของบริษัทของท่านได้เช่นเดียวกัน นั่นก็เพราะฮวงจุ้ยพูดถึงการบริหารกระแสพลังงาน (Qi) ให้มาในทิศทางที่ดีและปริมาณที่พอเพียง
สำนักงานของท่านสามารถรับกระแสจากทิศทางที่ดี ได้ในปริมาณที่พอเพียง ก็จะทำให้ภาพรวมของพนักงานในสำนักงานของท่านได้ประจุพลังงานที่ดีใส่ตัวของเขาอย่างสม่ำเสมอ เมื่อคิดและทำงานอะไรก็มักจะถูกต้องกับจังหวะและโอกาสทั้งภายในบริษัทและภายนอกบริษัทเสมอ ในทางกับกันหากสำนักงานของท่านไม่สามารถรับกระแสจากทิศทางที่ดี หรือไม่ได้รับกระแสอย่างพอเพียง ก็จะทำให้พนักงานไม่ได้ประจุพลังงานชนิดที่ดีเพียงพอ จึงอาจเป็นผลเสียกับงานทำงานและผลประกอบการของบริษัทท่านได้เช่นเดียวกันนะครับ โดยเงื่อนไขของการจัดฮวงจุ้ยในเชิงชัยภูมิที่ดี (Landform Feng Shui Theory) ด้านหลักๆของการจัดสำนักงานนั้นได้แก่
1. สำนักงานควรตั้งอยู่ในสถานที่ที่มีความเป็นหยาง (Yang) สูง เนื่องจากโดยส่วนใหญ่แล้ว งานของบริษัทเรานั้นต้องการความมีประสิทธิภาพ (Efficiency) นั่นหมายถึงพนักงานนั้นต้องมีความกระตือรือร้นในการทำงานเพื่อเป็นจุดเริ่มต้นของการได้รับผลลัพธ์ที่ดี ซึ่งความกระฉับกระเฉง ความขยัน หรือ ความกระตือรือร้นนั้น เป็นสภาพของความเป็นหยาง ดังนั้นเพื่อให้พนักงานของบริษัทเราได้รับพลังงานที่มีความเป็นหยางเข้าไป เพื่อปรับสภาพตัวเขามีความกระตือรือร้นในการทำงานมากขึ้น เราจำเป็นต้องหาสถานที่ตั้งของสำนักงานเราให้มีความเป็นหยางให้สอดคล้องกันด้วย
โดยความเป็นหยางของสถานที่นั้นได้แก่ สถานที่ที่อยู่ในที่ที่มีกระแสจากการจราจรสูง เช่น ใกล้กับถนนที่มีรถหรือคนผ่านไปมาอยู่ตลอดเวลางาน ใกล้กับแนวรถไฟฟ้า หรือหากมองเป็นสำนักงานภายในอาคาร ก็ควรเป็นอาคารที่มีผู้เช่าหรือพนักงานโดยรวมในปริมาณที่มาก เพราะพนักงานจำนวนมากนั้นจะเป็นผู้สร้างความเป็นหยางให้กับสถานที่นั่นเอง อย่างไรก็ตามสำหรับบริษัทที่ต้องการความสงบหรือสมาธิในการทำงาน เรายังสามารถมองความเป็นหยางได้จากสภาพแวดล้อมตามธรรมชาติ เช่น ได้รับแสงและลมจากธรรมชาติเพียงพอ ไม่อับแสงและลมมากเกินไป หรือ บรรยากาศโดยรวมภายในสำนักงานนั้น ไม่มืดทึบจนเกินไป เพราะอาจจะเป็นเหตุให้พนักงานของท่านทำงานไม่มีประสิทธิภาพได้นะครับ
2. ตำแหน่งของประตูทางเข้าสำนักงานควรอยู่ใกล้กับจุดจ่ายกระแส โดยจุดจ่ายกระแสนี้เรามองออกเป็นสองรูปแบบครับ หากสำนักงานของท่านเป็นอาคารพาณิชย์หรือทาวเฮ้าส์ของบริษัทท่านโดยตรง ประตูทางเข้านั้นขอให้ท่านดูที่ประตูทางเข้าที่ชั้นล่างของอาคารโดยตรงนะครับ ที่ปากประตูทางเข้าท่านต้องสามารถสัมผัสได้ถึงการเคลื่อนไหวของกระแสอากาศ ไม่ว่าจะเป็นจากรถหรือคนที่พามา หรือ หากไม่ได้จริงๆ ก็ให้พิจารณาว่ามีกระแสลมตามธรรมชาติพัดผ่านมาอย่างสม่ำเสมอหรือไม่
สำหรับรูปแบบที่สอง ได้แก่การที่สำนักงานของท่านนั้นตั้งอยู่ในอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ครับ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นอาคารที่มีหลายชั้น ใช้การเปิดเครื่องปรับอากาศตลอดเวลา แทบจะไม่มีการเปิดหน้าต่างเพื่อเอากระแสอากาศจากภายนอกเข้ามาที่อาคารเลย ในกรณีนี้การพิจารณาตำแหน่งของประตู ให้พิจารณาตำแหน่งประตูทางเข้าของบริษัทของท่านเองได้เลย และให้พิจารณาว่าจุดจ่ายกระแสนั้นเป็นลิฟท์ เพราะลิฟท์นั้นถือว่าเป็นสิ่งที่ลากกระแสโดยผู้คนที่พาเอากระแสลากมาที่ชั้นหรือห้องของเรา ดังนั้นเราจะถือว่าหากบริษัทของเราอยู่ใกล้กับโถงลิฟท์ได้มากเท่าไร จะทำให้มีโอกาสที่จะมีฮวงจุ้ยที่ดีมากขึ้นไปเท่านั้น
3. โถงภายในของประตูต้องมีความกว้างพอสมควร และไม่ควรมีการนำส่วนประชาสัมพันธ์มาขวางไว้ เพราะเราต้องการให้กระแสอากาศสามารถเข้ามาภายในบริษัทของท่านได้มาก หากพื้นที่โถงภายในประตูของท่านมีขนาดเล็กเกินไป ก็จะทำให้อากาศสะสมตัวได้น้อยลงไปเท่านั้นครับ และนอกจากนี้เพื่อให้กระแสอากาศสามารถไหลหลากเข้าไปในสำนักงานของท่านได้ง่ายและทั่วถึง ขอให้ท่านไม่นำส่วนประชาสัมพันธ์หรือผนังป้ายชื่อภายในบริษัทที่มีขนาดใหญ่ไปขวางทางของกระแสอากาศนั้นไว้ เพราะจำทำให้หน่วยงานอื่นๆที่อยู่ภายในไม่สามารถได้รับกระแสได้เพียงพอครับ สำหรับการวางตำแหน่งประชาสัมพันธ์นั้น ก็ยังควรวางอยู่ใกล้ๆกับประตูทางเข้าเหมือนเดิมนะครับ แต่อย่าวางขวางแนวประตูโดยตรงก็พอครับ
4. ตำแหน่งห้องของผู้บริหารควรจะอยู่ในโซนด้านหน้าของสำนักงาน เพราะการหลากของกระแสภายในของบริษัทนั้นจะเกิดจากกลไกของการที่พนักงานเป็นผู้ลากกระแสเข้ามา หากเรานั่งในโซนด้านหน้าของสำนักงาน ก็จะทำให้มีโอกาสได้รับกับปริมาณกระแสที่มากเพราะพนักงานจะเดินผ่านได้มาก แต่หากเรานั่งในโซนด้านหลังหรือหลังสุดของสำนักงานก็จะทำให้ไม่มีใครเดินผ่านแล้ว ถือว่าไม่ได้รับกระแสอากาศอย่างเพียงพอครับ
นอกจากนั้นการที่เรานั่งในโซนด้านหน้า หากเราสามารถออกแบบห้องให้ค่อนข้างโปร่ง เรายังสามารถมองเห็นและควบคุมการทำงานของพนักงานทั่วไปได้ง่าย และสะดวกกับการติดต่อสื่อสารกับบุคคลภายนอกเช่นเดียวกันนะครับ
5. การจัดตำแหน่งโต๊ะทำงานของพนักงานต้องพยายามให้ได้รับกระแส โดยต้องพยายามให้สภาพแวดล้อมโดยรวม โปร่ง โล่ง สบาย ไม่จำเป็นต้องกั้นห้องแบบมิดชิด ใช้ Partition กันก็เพียงพอแล้ว และหากสามารถเลือก Partition และเฟอร์นิเจอร์ที่ขาลอยขึ้นมาเล็กน้อยได้จะถือว่าดีมาก เพราะกระแสอากาศจะไหลเวียนในที่ต่ำเป็นส่วนใหญ่ จะทำให้กระแสสามารถไหลหลากไปได้ทั่วบริษัท หรือหากมีความจำเป็นต้องมีการกั้นผนังห้อง การกั้นผนังห้องโดยการใช้กระจก ถึงแม้ว่าจำทำให้กระแสอากาศจริงๆไหลเวียนได้ยากขึ้น แต่ในทางจิตวิทยาเราก็จะเห็นสภาพของการเกิดการเคลื่อนไหวของกระแสได้จากทางสายตาด้วยเช่นเดียวกันครับ
นอกจากนี้โต๊ะของพนักงานส่วนใหญ่ควรหันหน้าเข้าหาประตู เพื่อให้เห็นกับจังหวะและโอกาสที่ผ่านเข้ามาอยู่ตลอดเวลาครับ การหันข้างให้กับประตูก็ยังถือว่าพอใช้การได้ แต่การหันหลังให้กับประตูนั้นถือว่าไม่ดีเท่าไรครับ
หลักการที่ได้กล่าวมาถือว่าเป็นหลักการเบื้องต้นแต่เป็นหลักการที่สำคัญมากๆสำหรับการจัดฮวงจุ้ยของสำนักงานให้ดีนะครับ โดยซินแสที่มีประสบการณ์จะให้ความสำคัญกับการจัดฮวงจุ้ยในเชิงชัยภูมิดังกล่าวเป็นอย่างมาก ไม่ต่ำกว่า 50% ของการจัดครับ แต่อย่างไรก็ตามเรายังต้องพิจารณาควบคู่ไปกับการจัดฮวงจุ้ยในเชิงองศาทิศทาง (Compass Feng Shui Thepry) ด้วยเช่นเดียวกันครับ เพราะนอกจากเราต้องการให้ได้รับกระแสอากาศที่ไหลเวียนได้พอเพียงในบริษัทของท่านแล้ว เรายังต้องการให้กระแสอาศนั้นมาจากทิศทางที่ดีด้วยครับ ซึ่งการที่จะผสานหลักการทั้งสองอย่างเข้าด้วยกัน ท่านสามารถรับคำปรึกษาในรายละเอียดได้จากซินแสที่มีประสบการณ์นะครับ