ไม่ว่าจะเป็นแสงสว่างจากธรรมชาติ พระอาทิตย์ ดวงจันทร์ หรือแสงสว่างที่มนุษย์ได้สร้างขึ้น หลอดไฟ โคมไฟ เทียนไข แสงเหล่านี้ทำให้มองเห็นชัดเจนขึ้น แต่แสงสว่างจากธรรมชาติกับสร้างขึ้นมาเองนั้น มีความแตกต่างกัน แสงจากหลอดไฟนั้นแม้จะมีคลื่นรังสีเช่นเดียวกับพระอาทิตย์ แต่กำลังวัตต์ของแต่ละหลอดนั้นย่อมไม่เท่ากัน ก่อนที่จะติดโคมไฟภายในบ้านนั้น จึงจำเป็นต้องทราบตำแหน่งที่ติดให้ดี ว่าตำแหน่งใดติดแล้วดีตำแหน่งใดติดแล้วมีผลเสียตามมา การเลือกตำแหน่งไม่เหมาะสมนั้น จะทำให้เจ้าของบ้านและผู้อยู่อาศับมีสุขภาพที่ไม่ดี ล้มป่วยได้ ตำแหน่งของการติดโคมไฟนั้น ต้องมีความกลมกลืนจากแสงธรรมชาติและแสงจากหลอดไฟ แยกประเภทและตำแหน่งการติดโคมไฟไว้ดังนี้
- โคมไฟติดเพดาน โคมไฟประเภทนี้จะประหยัดไฟ ให้แสงสว่างกระจาย สามารถติดได้ทั่วไป ทั้งห้องครัว ห้องนอน ห้องน้ำ
- โคมไฟแขวนเพดาน ทั้งแบบยุโรป แบบจีน ตามที่เจ้าของบ้านชอบ ห้องรับแขกเป็นห้องที่เหมาะกับการติดโคมไฟประเภทนี้ ส่วนห้องที่ไม่เหมาะคือห้องนอน
- โคมไฟแบบฝังฝ้า เหมาะกับทั่วไป ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องรับแขก บริเวณทางเดิน หรือระเบียง ห้องครัวคือห้องที่ไม่เหมาะสมกับการติดโคมไฟประเภทนี้
- โคมไฟติดฝาผนัง มักจะติดบริเวณทางเดิน ห้องรับแขก ห้องนอน เป็นโคมไฟที่ปรับและควมคุมแสงสว่างในห้องได้อย่างดี
- โคมไฟสปอร์ตไลท์ ควรติดเฉพาะเวลาที่มีความจำเป็น เช่น ตกแต่งในงานต่างๆเพื่อเพิ่มความสว่าง และจุดเด่น แต่ไม่ควรติดนานๆ เพราะมีผลต่อดวงตาเป็นอย่างมาก
- โคมไฟประเภทอื่นๆ เช่น หลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย เพราะให้แสงสว่างดี ทั้งยังประหยัดพลังงานอีกด้วย ส่วนโคมไฟตั้งโต๊ะ ไม่ควรวางให้ส่องหน้าของผู้ใช้โดยตรง จะส่งผลต่อสุขภาพตาได้
เมื่อมีแสงสว่างที่ใช้ในการมองเห็นทางสายตาแล้ว ก็จำเป็นต้องมีแสงสว่างทางใจ ทางมี สติ เป็นเครื่องนำทางสู่แสงสว่างทาง ปัญญา ด้วยเช่นกัน จะได้ไม่หลงทาง เสียเวลาในการดำเนินชีวิต ลองสำรวจดูนะค่ะ ว่าตอนนี้ชีวิตเดินไปถูกทางแล้วหรือยัง